ยุคที่ 4 วีแอลเอสไอ

ยุคที่ วีแอลเอสไอ  (.ศ  2513-2532)

จากวงจรไอซีได้มีการพัฒนาวงจรรวมความจุสูงหรือเอสแอลไอ (Large ScaleIntegrated Circuit : LSI) ขึ้นมาใหม่ในปี พ. ศ. 2513 ทำให้สามารถบรรจุวงจรทรานซิสเตอร์จำนวนหลายพันตัวลงบนแผ่นซิลิคอนขนาด 1/6 ตารางนิ้ว นับเป็นการเริ่มยุคที่สี่ของคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ระหว่าง พ.ศ. 25132532 และในปี พ.ศ.2518 สามารถเพิ่มปริมาณวงจรหลายหมื่นวงจรลงบนแผ่นซิลิคอนขนาดเท่าเดิม เรียกว่า วงจรรวมความจุสูงมากหรือวีแอลเอสไอ (Very Large

Scale Integrated Circuit : : VLSI)


วงจรวีแอลเอสไอ  (Very Large Scale Integrated Circuit : : VLSI)

                จาการประดิษฐ์วีแอลเอสไอสามารถนำมาสร้างเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู (Central Processing Unit : CPU) ของคอมพิวเตอร์ และสามารถลดขนาดของคอมพิวเตอร์ให้เล็กลงจนสามารถตั้งบนโต๊ะทำงานใน สำนักงาน หรือพกพาไปในที่ต่าง ๆ เหมือนกระเป๋าหิ้วได้เรียกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เกิดในยุคนี้ว่า ไมโครคอมพิวเตอร์

 ไมโครโพรเซสเซอร์(Central Processing Unit : CPU)


        นอกจากนี้ ยังสามารถนำวงจรวีแอลเอสไอมาสร้างเป็น หน่วยความจำรองที่สามารถเก็บข้อมูลในระหว่างที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้ ทำให้ได้หน่วย ความจำที่มีความจุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ยุคนี้จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนคอมพิวเตอร์นอกจากช่วยงานคำนวณแล้วยังสามารถทำงานเฉพาะทางอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น การนำเสนอข้อมูลแบบสื่อประสม
        นอกจากการพัฒนาในระบบฮาร์ดแวร์แล้ว ยังมีการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่มีการติดต่อกับผู้ใช้ในรูปของกราฟิกที่เรียกว่า จียูไอ (Graphical User Interface : GUI) แทนการติดต่อแบบรายคำสั่ง (commandline interface)ที่เป็นการพิมพ์คำสั่งทีละคำสั่งเพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์ เช่น ในอดีต ปัจจุบันเริ่มมีการใช้เมาส์ในการสั่งงานคอมพิวเตอร์ และยังมีการพัฒนาซอฟต์แวร์สำเร็จช่วยงานจำนวนมาก ทั้งที่เป็นงานสำนักงานทั่วไปและงานเฉพาะทาง เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ซอฟต์แวร์นำเสนอ ซอฟต์แวร์เหล่านี้ก็จะมีการติดต่อกับผู้ใช้แบบจียูไอ ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น การใช้งานคอมพิวเตอร์จึงได้รับความนิยมสูงขึ้นมากในยุคนี้






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น